ด้วยความเป็นแม่ที่สงสารลูกยา ไม่รู้จะทำยังไง โทรถามข่าวกับทางบ้านสามีว่า สามมีได้โทรศัพท์กลับมาบ้างหรือเปล่า ทางบ้านสามีก็ไม่มีใครได้ข่าวของสามีเธอเลย เธอได้แต่ร้องไห้ คิดไปต่างๆนาๆ ไม่ได้คิดว่าสามีจะนอกใจแต่อย่างใด เพราะตลอดเวลาที่ไปทำงานไต้หวันเป็นเวลา 5 ปีกว่า สามีไม่มีเดือนใหนที่ไม่ส่งเงินกลับบ้านให้ภรรยาและลูก และไม่มีวันใหนไม่โทรศัพท์คุยกับลูกเลย และได้บอกกับภรรยาว่าโทรศัพท์จะเสียแล้ว ถ้าโทรศัพท์เสียคงไม่ได้โทรศัพท์กลับบ้านนะและชั่งเป็นการรอคอยที่นานแสนนาน
ฉะนั้นการขาดการติดต่อของสามีจึงทำให้ภรรยาเป็นห่วงมาก อีกทั้งลูกน้อยคอยเฝ้ารอโทรศัพท์จากพ่อในทุกๆวัน ด้วยความคิดกลัวในเรื่องต่างๆ จะเป็นอะไรไหม ได้รับอุบัติเหตุหรือเปล่า ไม่สบายหรืออย่างไร จะเป็นอันตรายหรือเปล่า คิดไปต่างๆนาๆ ไม่รู้จะเริ่มต้นยังไง จึงไปค้นหาเอกสารที่มีอยู่ พบเพียงสัญญาจ้างงานที่ได้ทำไว้ จึงตัดสินใจโทรเข้าบริษัทจัดหางานที่มีเบอร์โทรศัพท์ในสัญญาจ้างงานนั้น เพื่อให้ทางบริษัทติดต่อกับสามีของเธอ แต่ไม่เป็นผลเมื่อบริษัทนั้นได้ปิดตัวลงแล้ว เธอจึงได้โทรศัพท์ติดต่อกับญาติพี่น้องของเธอที่ไปทำงานที่ไต้หวัน ขอให้ญาติของเธอออกตามหาสามีของเธอ มีเพียงที่อยู่ในสัญญา ตัวญาติเองซึ่งไม่รู้ว่าจะเดินทางไปตามที่อยู่ได้ยังไง จึงปรึกษากันกับเพื่อนๆ ตกลงกันและบอกทางบ้านว่าจะประกาศขอความช่วยเหลือทางFACEBOOK หวังว่าจะได้รู้ข่าวจากเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ คนไทยที่ทำงานในไต้หวันด้วยกัน
เธอหวังเพียงได้รู้ว่าสามีของเธออยู่สุขสบายดี ไม่มีอันตรายใดๆ แค่อยากให้สามีโทรศัพท์ส่งข่าวให้ทางบ้านได้รับรู้ เพื่อลูกน้อยทั้งสองคนที่นับวันรอการกลับมาของพ่อ
ขอขอบคุณการช่วยเหลือจากเพื่อนๆพี่ๆน้องๆชาวไทยในไต้หวันไว้ ณ ที่นี้ด้วยนะค่ะ
ขอไห้ได้เจอเร็วๆน่ะครับ สู้ๆ
ตอบลบ