การเลือกตั้งท้องถิ่นไต้หวัน 9 รายการ เป็นไปด้วยความเรียบร้อย มีเพียงเหตุละเมิดกฎหมายเลือกตั้งประปรายเท่านั้น ผลการนับคะแนนอย่างไม่เป็นทางการปรากฎว่า ผู้สมัครของพรรครัฐบาลคือพรรคก๊กมินตั๋งส่วนใหญ่พ่ายแพ้ให้แก่ผู้สมัครของพรรคดีพีพี พรรคฝ่ายค้านอย่างราบคาบในส่วนของผู้ว่าการนครและผู้ว่าการเมืองและนายกเทศมนตรี โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกรุงไทเป นายเหลียน เซิ่งเหวิน ผู้สมัครของพรรคก๊กมินตั๋ง ได้ขอโทษต่อประชาชนที่ตนเองยังพยายามไม่พอ ทำให้พ่ายแพ้ผู้สมัครอิสระที่ได้รับแรงหนุนจากพรรคฝ่ายค้านคือนายแพทย์เคอ เหวินเจ๋อ หลังจากที่ตนมีคะแนนไล่ตามหลังกว่า 2 แสนคะแนน เมื่อเวลาประมาณ 18.30 น. โดยนายแพทย์เคอฯ ก็ได้ประกาศชัยชนะในการเลือกตั้งคราวนี้ในเวลาต่อมา ขอบคุณชาวกรุงไทเปที่เทคะแนนเสียงให้อย่างท่วมท้นเกินกว่า 8 แสนคะแนน ด้วยสโลแกน “ใช้รักและอ้อมกอดทำลายกำแพงขวางกั้นระหว่างเขียวกับน้ำเงิน การแยกกับการรวมประเทศ และความแตกต่างของสายเลือด”
นอกจากที่กรุงไทเปที่พรรคก๊กมินตั๋งพรรครัฐบาลพ่ายแพ้สูญเสียที่นั่งให้แก่ผู้สมัครอิสระแล้ว นครเถาหยวน นครไถจง นครไถหนาน และนครเกาสง พรรครัฐบาลก็พ่ายแพ้แบบกราวรูดไม่เห็นฝุ่นทีเดียว
ส่วนทางด้านผู้ว่าการเมืองและนายกเทศมนตรีนั้น ผู้สมัครของพรรคก๊กมินตั๋งรักษาที่นั่งไว้ได้เพียงเหมียวลี่ เมืองซินจู๋ เมืองไถตง และเมืองฮวาเหลียน กล่าวได้ว่าเป็นความพ่ายแพ้ครั้งใหญ่สุดในประวัติศาสตร์การเมืองของไต้หวัน
สำหรับผู้สมัครรับเลือกตั้งของพรรคดีพีพี พรรคฝ่ายค้านได้รับเลือกตั้ง นายกเทศมนตรีจีหลง นครเถาหหยวน นครไถจง หยุนหลิน เมืองเจียอี้ เทศบาลเจียอี้ ไถหนาน นครเกาสง ผิงตง เผิงหู รวมทั้งสิ้น 12 ที่นั่ง จากเดิมที่ประเมินในตอนแรก 11 ที่นั่ง
การเลือกตั้งระดับท้องถิ่น 9 รายการครั้งนี้ นับว่าเป็นความสำเร็จในชัยชนะอันยิ่งใหญ่ของพรรคประชาธิปไตยก้าวหน้า หรือ DPP ที่สามารถครองคะแนนเสียงได้ใน 13 เขตเลือกตั้ง ซึ่งรวมถึง 4 ตำแหน่งของผู้ว่าการนครเถาหยวน ไถจง ไถหนาน และเกาสงด้วย โดยในช่วงเย็นของวันที่ 29 พฤศจิกายนหลังทราบผลคะแนนอย่างไม่เป็นทางการนางไช่ อิงเหวิน(蔡英文) ประธานพรรคดีพีพี พร้อมด้วยอดีตประธานพรรคอย่างนายเซี่ย จ่างเหยียน(謝長廷) และนายซู เจินชาง(蘇貞昌) ก็เปิดแถลงข่าว ณ ที่ทำการกลางของพรรค โดยระบุว่า ผลการเลือกตั้งที่ออกมาทำให้เห็นว่าประชาชนยุคใหม่มีความคิดที่อยากจะเห็นการเปลี่ยนแปลงและการพัฒนา ดังนั้นคะแนนเสียงของประชาชนทุกคนที่มอบให้จึงถือเป็นหน้าที่ความรับผิดชอบของพรรคในการเริ่มต้นเปลี่ยนแปลงอนาคตของไต้หวันอย่างแท้จริง
นางไช่ อิงเหวิน(蔡英文) กล่าวอีกว่า ความพ่ายแพ้ที่เกิดขึ้นต่อพรรคก๊กมินตั๋งนั้น นับว่าเป็นบทเรียนสำคัญที่สอนให้รู้ว่าเราไม่ควรตั้งอยู่บนความประมาท และหากเมื่อไหร่ที่ผู้นำไม่ดีพอ ประชาชนก็มีสิทธิ์ดึงเอาอำนาจที่มอบให้กลับคืนมาได้ตลอดเวลาเช่นกัน
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น